พร้อมสู้เมื่อจำเป็น..
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ ว่า ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ ที่ติดกับชายแดนกัมพูชาเช็คสภาพหลุมหลบภัยที่มีอยู่แล้ว และที่จำเป็นต้องมีต้องเร่งสร้างเพิ่ม เชิงยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศเราต้องอยู่ตามแนวชายแดน ไม่ว่าเราจะมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมีเอาไว้เพื่อสร้างความพร้อมและความมั่นใจให้กับประชาชน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯจังหวัดอุบลราชธานีได้รายงาน ตนได้เดินลอดหลุมหลบภัยถือว่าโชคดีเหมือนลอดท้องช้าง ทำอย่างไรจะจำกัดความชื้นตรงนั้นได้ ถ้าไม่เห็นก็จะฟังว่าหลุมหลบภัยดี เป็นกล่องสี่เหลี่ยมมั่นคงป้องกันกระสุนได้แน่นอน ป้องกันอันตรายได้แน่นอน แต่กรณีเด็กเล็กนั้นต้องมีการซักซ้อมวิ่งเข้าวิ่งออก ไม่ใช่วิ่งเข้าแล้วไปคุดคู้ต้องออกให้เร็วที่สุด และสิ่งที่สำคัญที่สุดต้องไม่ให้เกิดความเสียหายบาดเจ็บ เพราะจะทำให้เขาฝังใจในอนาคตได้ ฉะนั้นกระทรวงมหาดไทย ต้องคิดทุกมิติ กองกำลังอาสาต้องใช้อาวุธปืนก็ให้คล่อง ถ้าใช้ไม่คล่องยามสงครามมีสากกะเบือดีกว่า ยังโยนยังตีหัวใครได้ ความพร้อมตรงนี้ต้องมี
นายอนุทิน ย้ำอีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดรับโจทย์ไปเยอะในช่วง 3 ถึง 4 สัปดาห์ที่เริ่มมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ตนจะไม่ใช้คำที่รุนแรง เพราะเราพยายามทำให้ขวัญกำลังใจของประชาชนให้ปกติมากที่สุด

”กระทรวงมหาดไทยมั่นใจว่า พี่น้องทหารจะไม่ให้มีการรุกล้ำเข้ามาในบ้านเมืองของเราเป็นอันขาด เต็มที่ก็อยู่แค่แนวนั้น ถ้าลุกเข้ามา แม้กระทรวงมหาดไทยไม่มีทหาร ไม่มีตำรวจ มีแต่คนไทย ตนก็จะมารบด้วย จะกลัวอะไร ปกป้องบ้านเมือง ชีวิตเจอแบบนี้สักครั้ง ได้ปกป้องผืนแผ่นดินบ้านเมืองของเรา ต้องมองว่าถ้าจำเป็นก็ต้องมา เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน วันนี้นายกรัฐมนตรีให้สโลแกนไว้ “มหาดไทยเป็นบ้านทหารเป็นรั้ว” รั้วบ้านต้องแข็งแรง คนในบ้านต้องปลอดภัย
“ตอนนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ที่จะนำความปลอดภัยมาให้กับประชาชน มหาดไทยก็มุมานะ ผู้ว่าฯ-ปลัด ก็เรียนโรงเรียนนายอำเภอหมด ถูกฝึกมาหมด อาจจะไม่ลึกเท่าทหารแต่ฝึกวิธีการบรรเทาภัยป้องกันภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ แม้จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่เรามีความพร้อม และประชาชนของเราต้องปลอดภัย ไม่มีอะไรที่จะให้สัญญากับประชาชนได้มากกว่านี้”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การที่ออกประกาศก็เป็นเรื่องของฝั่งกัมพูชา ไม่เกี่ยวกับไทย เขาไม่สามารถออกมาตรการอะไรทำให้เราขวัญหนีดีฝ่อได้เป็นอันขาด อธิปไตยใครอธิปไตยมัน แต่อย่ามาข้ามกัน ถ้าข้ามกันเราต้องพร้อมสู้ ไม่มีคนไหนที่บอกไม่พร้อม ฝั่งทหารไทยพร้อมที่จะเป็นแนวหลัง ปกป้องรั้วบ้านให้ปลอดภัย ส่วนความขัดแย้งขอให้เกิดขึ้นที่แนวรบ หากจำเป็นต้องมีการสู้รบปรบมือให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง แต่ประชาชนพี่น้องญาติกันทั้งนั้นที่อยู่ในนี้ เราจำเป็นต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความมีอารยะ อย่าทำให้เกิดความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา โทรมาพูดคุยกับมหาดไทย ให้คำมั่นสัญญาว่า คนของเขาเราจะดูแลความปลอดภัยให้เต็มที่ คนของเราในบ้านเขา เขาก็จะดูแลความปลอดภัยให้เต็มที่เช่นกัน ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเรื่องพรมแดน เรื่องปัญหาความสัมพันธ์ของประเทศให้เป็นเรื่องของรัฐบาล การป้องกันประเทศเป็นเรื่องของทหาร เรามอบหมายหน้าที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปิดไฟ ปิดเน็ต ปิดน้ำ ที่ส่งไปฝั่งกัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงทหารแจ้งมา รัฐบาลพร้อมปิดทันที เราเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ทางที่ดีอย่าให้มีอะไรที่รุนแรงกว่านี้ เราจะได้ทำมาหากินได้ เพราะยังไงก็อยู่กันแบบนี้ แต่ที่แน่นอนคือ “แผ่นดินของเราตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้” นี่คือเป้าหมายที่แน่นอน เราขีดเส้นไว้เรียบร้อยนี่คือความถูกต้อง